ร้านให้บริการรับปักเสื้อ ใช้โน้ตบุ้คเครื่องละหมื่นต้นๆ สร้างงานสร้างเงินสร้างอาชีพได้ พลันทำให้คิดถึงคอมเม้นในพันทิฟกระทู้หนึ่งขึ้นมา

วันนี้ตื่นแต่เช้าจะไปทำงาน พอคร่อมรถปุ้ป อาทักว่า วันนี้มึงไปทำงานด้วยหรอ โทรหาเพื่อน สรุป วันนี้เป็นวันหยุด … ไหนๆก็ตื่นแล้วเลยไปเดินเล่นสนามหลวงสองดีกว่า
ได้ไปเจอร้านรับปักเสื้อ และขายเสื้อคอปก คนขายชื่อพี่อ้อ คุยกันแปปเดียว ตกลงทำเลยทั้งหมด 4 ตัว ปกติผมไปร้านอื่นๆ มีเงื่อนไขเยอะ ขั้นต่ำงั้นงี้ แต่ที่นี่ไม่เลย คุยทีหลังถึงได้รู้ว่า มีคนส่งงานให้เรื่อยๆ และทำเสื้อแบรนด์ตัวเอง จึงไม่ต้องมีขั้นต่ำใดๆ เสาร์อาทิตย์มาเปิดหน้าร้านที่นี่เพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ
สอบถามพี่ผู้ชาย(คาดว่าเป็นแฟนคุณอ้อ) ทราบว่า เครื่องปักเหล่านี้รู้ทุกจุดถ้าเสีย เพราะเดินทางไปเรียนมาแล้วหลายประเทศ
“เรียนจบป.4 เขาให้เดือนละ3หมื่น เราก็ไปสิ”
เรากำลังโอ้โห แฟนพี่อ้อก็พุดตัดบทว่า
“แต่สัญญา 7 ปี เราไม่รู้เรื่องเลยเซ็นต์ไป โคตรเหนื่อยเลยน้องเอ้ย ไปแต่ละประเทศ ไม่มีที่ไหนสบายเหมือนกับประเทศไทยหรอก อยู่อินเดียนี่ 2 ทุ่มเขาตัดไฟนะ และอยู่ประเทศอื่นๆนี่ เจอของกินก็อยากกลับบ้านแล้ว ใครว่ามันสวยหรู บ้านเราดีกว่าเยอะ ลำบากหน่อยแต่ก็ยังเป็นบ้านเรา”
ตรงกับความคิดผมโดยแท้ ไม่มีอะไรที่สบายไปว่าอยู่ประเทศไทยแล้ว เพียงแต่เราต้องอยู่ให้เป็นเท่านั้นแหละ
ระหว่างที่เขาออกแบบ พบว่าพี่อ้อใช้เพียง notebook เก่าๆ CPU pantium OS: Windows XP และดูจากรูปทรง อายุเครื่องไม่น่าน้อยกว่า 5 ปี

พลันทำให้คิดถึงคอมเม้นในกระทู้pantipนึง ที่ชื่อกระทู้ว่า “ใครเป็นบ้างค่ะ เรียนคอมพิวเตอร์ แต่ทำอะไรกับคอมไม่เป็นเลย”เนื้อหาก็ตามหัวข้อเลย
แต่ผมมาสะดุดอยู่คอมเมนท์ที่ 17 ผมอ่านแล้วรู้สึกมีความฮึกเหิม รู้สึกสู้ กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ หรือกำลังจะเริ่มทำ แต่ไม่ทำสักที เนื้อหามีตามนี้ครับ
ผมขอตั้งคำถามน้องเจ้าของกระทู้ว่า น้อง เรียนคอมไปเพื่ออะไร
ทำไมเรามัวแต่โทษคนอื่น โทษอาจารย์ โทษระบบ โทษประเทศ โทษวัฒนธรรม โทษยีนด้อยในตัวเรา แต่ทำไมเราไม่เคยมองตัวเราเอง ?
ทำไมเราไม่ฝึกตัวเอง ทำไมเราไม่ค้นหาสิ่งที่เราชอบจริงๆ เราไม่เก่งในสิ่งที่เราชอบแล้วทำไมเราไม่ยอมขยันศึกษามัน
เหมือน ค.ห. 5 บอก การเป็นนักศึกษา มันต่างจากนักเรียน นักเรียนคือเรียนในห้องเรียน แต่นักศึกษาคือศึกษาอยู่ตลอดเวลา
เคยตั้งคำถามมั้ย ว่าคนที่เขียนโปรแกรมเก่งสุดในห้อง คนที่ซ่อมคอมเก่งที่สุดในห้อง มันเกิดจากอะไร ?
เค้าเรียนเหมือนเรามั้ย ? อาจารย์สอนคนเดียวกันมั้ย ? แล้วทำไมเค้าถึงทำได้ แต่เราทำไม่ได้ ?
การเรียนการสอน เป็นแค่ส่วนเล็กๆ แต่ที่สำคัญคือ ตัวเราเอง สนใจสาขาที่เรียนแค่ไหน ภูมิใจกับสิ่งที่ได้เรียนแค่ไหน ศึกษาหาความรู้เพิ่มแค่ไหน หรือชีวิตมหาลัย หมดไปกับการ แต่งตัวสวย กรีสนักร้องเกาหลี ดูซีรี่ ดูละคร ดูหนัง เที่ยวกะเพื่อน หาแฟน
ถ้าน้องรักในคอมพิวเตอร์เหมือนที่น้องบอก ถ้าน้องหัวไม่ดี อ่านไม่จำ ศึกษาไม่เข้าใจ คำว่าใจรัก จะทำให้น้อง ขยัน++ มากเป็น 100 เท่า เมื่อเทียบกับคนอื่น แล้วสุดท้าย ใจรักจะนำพาความเก่ง ใส่ในตัวน้องเอง
จำไว้นะครับ
คอมพิวเตอร์มันจะเป็นเพียงแค่ เศษเหล็กไร้ค่า ถ้าไม่เสียบปลั๊กเปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์มันจะเป็นเพียงแค่ เครื่องเล่น MP3 ราคาสองสามร้อย ถ้าเรามั่วแต่ฟังเพลง
คอมพิวเตอร์มันจะเป็นเพียงแค่ เครื่องเล่นเน็ต ชั่วโมงละ 10 บาท ถ้าเรามัวแต่เอาไว้เล่นเน็ต เล่นเฟส
คอมพิวเตอร์มันจะเป็นเพียงแค่ เครื่องเล่นหนังราคา สี่ห้าร้อย ถ้าเรามัวแต่เอาไว้ดูหนัง
แต่
คอมพิวเตอร์ ราคาไม่กี่หมื่น มันสามารถเป็นเครื่องช่วยค้นหาข้อมูล งานวิจัยระดับประเทศ
คอมพิวเตอร์ ราคาไม่กี่หมื่น มันสามารถเป็นเครื่องมือเขียนโปรแกรมสุดยอด ราคาหลายแสน
คอมพิวเตอร์ ราคาไม่กี่หมื่น มันสามารถเป็นเครื่องมือ เขียนแบบ ตึกสูงเสียดฟ้า มูลค่า หลายล้าน
ทั้งๆที่เป็นคอมพิวเตอร์ เครื่องเดียวกัน โปรกรมที่ลงก็โปรแกรมเดียวกัน แต่คนใช้ต่างกัน Productivity กลับต่างกัน มหาศาล
น้องเรียนสายนี้ น้องต้องเลือก น้องมีอาวุธแสนยานุภาพมหาศาลในมือ น้อง จะใช้มันแค่ ดูหนัง ฟังเพลง หรือ จะใช้มันทำเงิน ให้น้องเป็นแสน เป็นล้าน
น้องเป็นคนเลือกเอง

