บทความวศิลป์เขียน

ผมตัดสินใจออกจากงานประจำเพราะต้องการ “หยุด – ฝึกฝน – ไปต่อ”

อีกครึ่งชั่วโมง ผมจะต้องตัดสินใจว่าจะไปร่วมทำงานกับเจ้าของใหม่ที่เข้ามาซื้อกิจการในบริษัทที่ผมสังกัดอยู่ หรือไม่ไปต่อ
ผมตัดสินใจออกจากงานประจำเพราะต้องการ

เริ่มบันทึกเมื่อ 9.21 1/12/60

อีกครึ่งชั่วโมง ผมจะต้องตัดสินใจว่าจะไปร่วมทำงานกับเจ้าของใหม่ที่เข้ามาซื้อกิจการในบริษัทที่ผมสังกัดอยู่ หรือไม่ไปต่อ

ผมเข้าทำงานที่นี่เมื่อวันที่ 7/8/58 ด้วยตำแหน่ง Web Programmer ถ้าเอาเต็มๆก็ “เจ้าหน้าที่สื่อสารและพัฒนาโปรแกรม”
งานก็คือการเขียนโปรแกรมบนเว็บ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานในบริษัทให้มากขึ้น มีทั้งเขียนใหม่ทั้งโปรเจ็ท และมีเขียนครอบฐานข้อมูล ERP ของบริษํทบ้างเป็นบางครั้ง

การทำงานที่นี่ ผมค่อยข้างมีความสุข เนื่องจากได้ชนกับลูกค้าโดยตรง นั่นก็คือ user ได้รับแจ้งมา ก็แก้ไขให้ดีที่สุด
ทุกโปรแกรม ผมมักจะเขียน log การใช้งานไว้เสมอ เพื่อเข้าไปดูว่ามีใครใช้บ้าง และผมก็แอบดีใจเล็กๆ ที่มีคนใช้งานโปรแกรมที่ผมเขียนขึ้น และบางครั้งเดินไปแผนกอื่น เห็นโปรแกรมที่ตัวเองเขียนไว้ ยิ่งทำให้ชื่นใจไปอีก

บางครั้งเวลามี user นัดคุยว่าจะให้แก้โปรแกรมในส่วนต่างๆ ผมไม่เคยเสียใจเลย ผมกลับดีใจทุกครั้ง เพราะแสดงว่าเขาใช้โปรแกรมเราจริง

“ถ้า user ไม่มีปัญหา เขาจะมาให้เราแก้ทำไม จริงมั้ย”

ปัญหาเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้น บางคนอาจะลำคาญ แต่ถามว่า ถ้าทำให้ปัญหานั้นจบ คุณจะต้องมาปวดหัวซ้ำๆซากๆหรือเปล่า 
ปัญหาเดิมๆซ้ำๆของ user สามารถแก้ไขได้ด้วย How to ผมเชื่อว่าคนทุกคนมีสกิลการแก้ปัญหา และอยากแก้ปัญหาด้วยตัวเองทั้งนั้น

“ไม่มีใครอยากงอมืองอเท้ารอคนมาช่วยอย่างเดียวหรอก”

นอกจากงาน programming แล้ว ผมก็ได้รับงานทำvdo ต่างๆ ซึ่งเป็นทางที่ชอบอยู่แล้ว

ผมชอบเวลาบรีฟงาน การออกไอเดีย การตัดต่่อ การสื่ออารมณ์ของคนที่แสดงอยู่ในคลิป

ถึงบางครั้งจะแสดงแข็งๆก็เหอะ 555

แต่คุณคิดดูสิ จะมีงานอะไรที่เราทำแล้วนั่งหัวเราะในเวลาทำงานบ้าง ก็มีแต่งานvdoนี่แหละ หัวเราะตั้งแต่ถ่ายทำ ยันตัดต่อ

โชคดีที่ผู้ใหญ่ของที่ทำงาน ไม่ค่อยก้าวล่วงมากนัก ให้ออกไอเดียเต็มที่ ทำเต็มที่

และเมื่อวันนี้มาถึง

ผมมีกฏ/นโยบาย หรือเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ ประจำตัว อยู่อย่างนึงก็คือ “ผมจะต้องโตขึ้นทุกปี” โตในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ตำแหน่ง หน้าที่ การเงิน แต่เป็นความสามารถ …
ปีนี้ทำอะไรได้มากกว่าปีที่แล้วบ้าง …

ผมกลับพบว่า
-ผมเขียนwebapp โดยใช้ php เพียวๆ ที่มัน Security ต่ำมาก เรียกได้ว่า อัพขึ้นhost แล้ว google ส่งบอทมารู้จักเมื่อไหร่ … ชิบหายเมื่อนั้น เหมือนหลายปีที่แล้ว
– mobile app ผมก็ยังเขียนไม่ได้ Backend FrontEnd อะไรไม่รู้จัก เหมือนหลายปีที่แล้ว
– java node.js docker ยิ่งไม่รู้จักเลย ทั้งๆที่พูดถึงกันในชาวโปรแกรมเมอร์อย่างมากเลย
– ผมยังถ่ายทำและตัดต่อวีดีโอ เหมือนเดิม เพียงแค่เนื้อหาในวีดีโอ เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น ไม่มีสกิลใหม่ๆเลย 
– การตลาดออนไลน์ ที่จ้องจะทำ ก็ไม่ได้ทำสักที
รวมถึง มโนโปรเจ็ทต่างๆ ก็ไม่คืบหน้าเลย

ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะหยุด …
แต่เป็นการหยุดที่เป็นขั้นเป็นตอน
หยุด > ฝึกฝน > ไปต่อ

หยุด พักทำกิจกรรมอื่นๆ
ฝึกฝน สกิลต่างๆ การเขียนโปรแกรมรูปแบบภาษาใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัย
ไปต่อ ผมขอเวลาพี่ชายผม 3 เดือน ไปช่วยร้านสเต็ก หลังจากนั้น ดูรายรับรายจ่ายแล้วว่าเป็นยังไง จะเดินทางไหนต่อ จะตัดสินใจอีกที

ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดจริงๆ ผมลำบากทีไร ก็หันหน้าเข้าหาครอบครัว และก็ได้รับความช่วยเหลือทุกครั้ง หากช่วยไม่ได้ ก็หาทางออกให้จนได้
แต่ลึกๆแล้ว คลุกคลีมาหลายธุรกิจ ธุรกิจอาหาร ไปได้ไกลที่สุด
(ขอบคุณเฮียแบงค์ สเต็กในตำนาน พี่ใหญ่ของบ้านไว้ ณ ที่นี้ มึงเก่งจริงๆ )


การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่อง เงิน ตำแหน่ง หรือเพื่อนร่วมงานใดๆทั้งนั้น
เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นมนุษย์

ผม “หยุด > ฝึกฝน > ไปต่อ” ตามแบบฉบับที่เหมือนกับน้าเน็คเลยครับ

ขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือกันมา

ไปก่อนนะ เขาเรียกแล้วครับ ….

—–

สรุปหลังจากเรียก ผมก็ไม่ไปต่อเหมือนที่ตัดสินใจไว้

ขอบคุณหัวหน้า ที่เคารพการตัดสินใจของผม… หวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกันอีก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *